แรม RAM
RAM หรือ Random Access Memory (แรม) เป็นหน่วยความจำหลักที่จำเป็นของเครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบัน ตัวของแรมนั้นสามารถซื้อมาเพิ่มเติมให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ แต่ต้องตรงกับสเปคของเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นๆ ไม่เช่นนั้น แรมที่ซื้อมาเพื่ออัพเกรดอาจจะใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือไม่ก็ถึงอาจไม่สามารถใช้งานได้เลย
RAM จัดว่าเป็นหน่วยความจำชั่วคราว (Short-Term Memory) โดยการทำงานของมันนั้นจะเป็นการเขียนหรือบันทึกข้อมูลแบบสุ่ม ซึ่งหน่วยความจำชนิดนี้จะสามารถบันทึกข้อมูลลงในตำแหน่งต่างๆ ได้อย่างอิสระ ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มความเร็วในการบันทึกและอ่านข้อมูล จึงเป็นที่มาของคำว่า Random access
ขณะเดียวกันก็ทำให้มันแตกต่างจากหน่วยความจำประเภทอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับฮาร์ดไดร์ฟ (Hard Drive) หรือ SSD (ที่รู้จักกันในนามของ Direct Access Memory) สิ่งที่ทำให้มันแตกต่างจากหน่วยความจำที่เข้าถึงได้โดยตรงนั่นก็คือ เมื่อมีการตัดกระแสไฟฟ้าหรือปิดคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่อยู่ภายใน Ram ก็จะหายไปอย่างสมบูรณ์
วันนี้จะมาแนะนำวิธีเลือกซื้อแรมแบบง่ายๆ กัน
Ram รุ่น DDR 4
- การเลือก DDR แรมในปัจจุบันจะมีรุ่น DDR อยู่สองรุ่นคือ DDR3 และ DDR การเลือกซื้อง่ายมาก นั่นคือเราสามารถเลือกรุ่น DDR4 ได้เลย แต่ถ้าแรมตัวเก่าของเราเป็น DDR 3 ให้เลือกซื้อ DDR 3 เพราะ DDR3 กับ DDR4 ใช้งานร่วมกันไม่ได้
- Dual Channel และ Single Channel มันคือการทำงานแบบเดี่ยวหรือคู่ของตัวแรมนั่นเอง การใช้แบบ Dual Channel จะดีกว่า Single Channel เสมอ เช่น ถ้าเราซื้อแรม 16 gb 1 อัน มันคือ Single Channel แนะนำให้ซื้อแบบ 8 gb สองอันจะเป็น Dual Channel จะใช้งานได้่มีประสิทธิภาพมากกว่า
- ความจุ ( Capacity : GB ) การเลือกความจุของแรมขึ้นอยู่กับว่าเราใช้งานทางด้านไหน ถ้าเพื่อใช้ทำงานไม่หนักมาก แรมขนาด 8 gb ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าต้องการใช้งานหนักๆ เช่น การตัดต่อวีดีโอ อาจจะต้องเพิ่มไปที่ความจุ 16 gb
- ความเร็วบัส ( Bus Speed ) เป็นความเร็วของตัวแรมนั่นเอง ยิ่งบัสสูงอัตราความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลก็จะมากตามขึ้นไป
วิธีการเลือกซื้อ RAM
การเลือกซื้อแรมในยุคปัจจุบันนั้นนอกจากเพิ่มความจุให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว ยังมีแรมแบบมีแสงสี หรือ ไฟสวยๆเพิ่มขึ้นมา และมันไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพแต่อย่างใด แต่เพิ่มแค่ความสวยงานเท่านั้นเอง